Tu navegador no está actualizado.
Para tener una mejor experiencia con nuestro sitio, te recomendamos descargar otros navegadores gratuitos ¡Para eso, solo tienes que hacer click en el ícono!
บ้านสไตล์โมเดิร์นกับรูปทรงเรขาคณิตเป็นของคู่กัน เพราะจากการตัดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไปจนเกิดเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์น ส่วนประกอบของบ้านสไตล์นี้อย่างพวกลวดลายประดับชายคา หรือบัวเสา บัวเพดาน จึงไม่มีปรากฏในบ้านแบบนี้เป็นแน่ จนหลายคนอาจออกปากว่าบางครั้งความเป็นโมเดิร์นก็ดูเรียบและนิ่งเกินไป ทว่าสำหรับบ้านหลังสวย Objekt 336
ผลงานของบริษัทสถาปนิกจากซูริค Meier Architekten ที่เรานำมาให้รู้จักกันในไอเดียบุคนี้ เราจะได้เห็นถึงการนำแสงเงาและเส้นสายลายเส้นที่เข้ามาประกอบกับรูปทรงเรขาคณิต จนเกิดเป็นจุดน่าสนใจ ทำให้บ้านสไตล์โมเดิร์นไม่ดูแข็งจนเกินไปนั่นเอง
เริ่มต้นกันด้วยการพาชมบ้านหลังนี้จากมุมที่เชื่อมต่อระหว่างชานบ้านและตัวบ้าน สิ่งที่เราเห็นได้ชัดสำหรับบ้านหลังนี้คือความโปร่ง ด้วยการใช้กระจกบานใหญ่กรุผนัง ขณะที่อีกคาแรกเตอร์ใหญ่คือสีเทาเข้มจนถึงดำที่สร้างความขรึมให้กับตัวบ้าน ระหว่างความโปร่งและขรึมเข้มนี้จะไปด้วยกันในทิศทางใด คงต้องตามไปดูกัน
จากทางเข้าบ้านแสนเรียบ จุดนี้แทบจะบอกอะไรไม่ได้เลยว่าข้างในบ้านจะเป็นอย่างไร เห็นเพียงแค่สีทำเข้มที่ใช้ทาผนัง ซึ่งแสดงถึงความเรียบเข้ม ให้ความรู้สึกแบบเคร่งขรึมเหมือนบ้านผู้ชาย อีกส่วนหนึ่งคือการปรับตัวบ้านให้รองรับกับพื้นที่ที่เป็นเนินเพื่อให้บ้านตั้งอยู่ได้อย่างแข็งแรง ส่วนอีกฟากของตัวบ้าน มองลงไปเห็นเมืองอยู่ด้านล่าง นับว่าเป็นองค์ประกอบที่น่าสนใจในเรื่องทิวทัศน์และทิศทางลมอยู่ไม่น้อย
แม้จากด้านที่ติดถนนเราจะเห็นว่าบ้านหลังนี้ดูทึบ แต่เมื่อเข้ามาภายในบริเวณบ้านแล้ว จะเห็นว่าบ้านหลังนี้ไม่ทึบอย่างที่คาดไว้ เพราะผนังบ้านโดยเฉพาะด้านที่เปิดสู่สวนและวิวสวยด้านล่างนี้ กรุด้วยกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ทำให้เห็นภาพวิวแบบพาโนราม่าได้แม้จะนั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นก็ตาม
การใช้กระจกเป็นวัสดุหลักอย่างหนึ่งของบ้านนี้ พบได้ในการสร้างบ้านแบบโมเดิร์นทั่วไป เพื่อเปิดให้แสงส่องเข้ามาสู่ตัวบ้านได้ดี ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกบ้านไปพร้อมๆ กัน
ด้วยรูปทรงบ้านที่เป็นรูปเรขาคณิตซ้อนกันไปมา การใช้ลายเส้นและสีโทนอ่อนมาผสานในการตกแต่งจะทำให้บ้านดูน่าสนใจมากขึ้น อย่างลายยาวของพื้นไม้ที่ชานบ้าน หรือลวดลายที่ปรากฏบนตู้หนังสือทั้งด้วยสีสันของหนังสือและจังหวะการเจาะช่องวางหนังสือ นอกจากนี้ยังได้แสงและเงาที่ส่องผ่านกระจกเข้ามาในช่วงเวลาต่างๆ มาช่วยสร้างเส้นสายแบบธรรมชาติที่แต่งแต้มให้ห้องนี้ดูนุ่มนวลขึ้นอีกด้วย
พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งห้องนั่งเล่น จัดวางแบบโอเพ่นสเปซ ไม่ไกลกันจึงถูกจัดแบ่งเป็นห้องกินข้าวร่วมด้วย โดยผนังของห้องยังคงเป็นกระจกแบบพาโนราม่ายาวมาถึงจุดนี้ โดยยกพื้นตรงที่ติดกับกระจกเป็นที่นั่งยาวขนานกันไป สร้างเป็นมุมพักผ่อนเพิ่มขึ้นอีกจุดหนึ่ง
(เคล็ดไม่ลับสำหรับบ้านที่มีกระจกจำนวนมาก กับ 3 ขั้นตอนทำความสะอาดกระจกให้กลับมาปิ๊งเหมือนใหม่อย่างง่ายดาย)
ห้องครัวของบ้านหลังนี้จัดวางตู้และชั้นวางต่างๆ อย่างเรียบที่สุดเท่าที่จะเรียบได้ ด้วยการทำตู้ขนานใหญ่เป็นตู้บิวต์อินติดผนัง ขณะที่ตัวเคาน์เตอร์ครัวก็เป็นตู้สีขาวรูปตัวแอล ยาวไปตลอดแนวผนัง จะมีส่วนที่สร้างสีสันให้กับห้องครัวสีขาว-ดำสุดเนี้ยบนี้อยู่บ้าง ก็คือลวดลายบนพื้น ที่เกิดจากการนำไม้หลากสีมาปูพื้น เป็นการฉีกกฎความเป็นโมเดิร์นแบบเล็กๆ แต่น่าสนใจ
มุมนั่งเล่นอีกมุมหนึ่งของบ้าน จัดวางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นในสไตล์มินิมัล มีเพียงโต๊ะหนึ่งคู่และเก้าอี้หนังตัวใหญ่วางกระจายตัวอยู่ ส่วนตู้หนังสือที่หน้าตาคล้ายกับตู้หนังสือใหญ่ในห้องนั่งเล่น นอกจากจะทำหน้าที่เป็นพาร์ทิชั่นกั้นห้องได้ด้วยแล้ว ยังเป็นของตกแต่งสร้างสีสันและลายเส้นให้กับห้องนี้อีกด้วย
รูปทรงเรขาคณิตที่ถูกเบรคความแข็งด้วยกระจก ปรากฏแม้ในห้องนอนใหญ่ กระจกบานใสที่กรุผนังสองทิศทางนี้ ช่วยเผยให้เห็นสวนด้านนอกที่ทำให้เกิดเป็นภาพทิวทัศน์ตกแต่งห้องไปในตัว ทั้งยังให้ความรู้สึกโล่ง ไร้ขีดจำกัด ไม่ทำให้ผู้อยู่ในห้องรู้สึกอึดอัดแม้อยู่ในพื้นที่ขนาดเล็ก
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งของห้องนี้คือ ขณะที่ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ตัวเฟอร์นิเจอร์เองกลับมีลูกเล่นด้วยเท็กเจอร์ของพรมและผ้าคลุมเตียง เป็นการใช้การตกแต่งแบบน้อยแต่มาก สร้างบรรยากาศให้แตกต่างออกไป
ห้องแต่งตัวที่อยู่ติดกับห้องนอนหลัก จัดแบบ Walk-in Closet ที่เรียบง่าย โดยมีพรมแบบเดียวกับห้องนอนเป็นตัวเชื่อมโยงในแง่การตกแต่ง
ห้องน้ำหลักของบ้าน มีการตกแต่งแบบเน้นความเรียบง่ายด้วยโทนสีขาวคล้ายกับห้องครัว ซึ่งท่ามกลางสีขาวครีมเรียบๆ นี้ ได้มีการนำรูปร่างเรขาคณิตของหน้าต่างสี่เหลี่ยมขอบไม้สีเข้ม ซึ่งปรากฏอยู่ในส่วนอื่นๆ ของบ้านมาทำซ้ำในขนาดที่เล็กลง ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกันทั้งบ้าน
บ้านสไตล์โมเดิร์นที่โล่ง โปร่ง เน้นสีขาวดูเรียบง่าย ถูกฉีกรูปแบบการดีไซน์อีกครั้งในห้องทำงานริมระเบียงชั้นสองแห่งนี้ ด้วยลวดลายกราฟฟิกบนพื้น ที่ทำให้ห้องไม่ต้องพึ่งการตกแต่งใดอีกต่อไป มองดูแล้วแม้ยังไม่หลุดธีมจากรูปทรงเรขาคณิต แต่ก็ทำให้หลุดจากความโมเดิร์นแบบเรียบง่ายและเคร่งขรึมได้อย่างสนุกทีเดียว
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวเนื่องกันไหม แต่เราสังเกตได้ว่าลวดลายกราฟฟิกบนห้องทำงานชั้นสองนั้นได้รับการถ่ายทอดมาสู่รูปทรงของบันไดนี้ หรืออาจจะมองในทางกลับกันก็ได้เช่นเดียวกัน
ออกจากตัวบ้าน มาปิดท้ายกันที่สวนซึ่งเห็นกันมาตั้งแต่ภายในบ้านกันบ้าง โดยรูปทรงของสิ่งปลูกสร้างในสวน ไม่ว่าจะเป็นกระถางขนาดยาว หรือสระบัว ล้วนถอดแบบล้อกับรูปทรงเรขาคณิตของตัวบ้าน ในขณะที่ตัวต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณนี้นั้นเป็นต้นไม้ทรงฟรีฟอร์มที่ดูฟุ้ง ดูเบาสบาย เรียกได้ว่าเป็นการเบรกความแข็งของเรขาคณิตแบบโมเดิร์นด้วยเส้นสายลายเส้นจากธรรมชาติอีกจุดหนึ่งนั่นเอง
